สุดยอดโปรแกรมฝึกความแม่นยำสำหรับเกม FPS

คุณสนุกกับเกม FPS ที่กำลังเล่นอยู่ แต่ก็อยากฝึก FPS เพื่อให้สู้กับคนเก่งๆ ได้ใช่ไหม หากคุณไม่ได้อยู่ใน 3 หรือ 5 อันดับแรกของล็อบบี้อย่างต่อเนื่อง (ขึ้นอยู่กับขนาดเกม) การฝึก FPS ก็ช่วยคุณได้ และหากคุณตัดสินใจจะลงทุนเพื่ออัปสกิล ซอฟต์แวร์ฝึก FPS (First-Person Shooter) ก็เป็นสิ่งที่น่าลงทุนเช่นกัน

ทำไมต้องใช้ซอฟต์แวร์สำหรับฝึกเล่นเกมเล็งเป้า

นอกเหนือจากการเล่นเกมทุกวันแล้ว ซอฟต์แวร์ฝึกเกมเล็งเป้าก็เป็นขั้นตอนที่ดีที่สุดในการอัปสกิลที่คุณสามารถทำได้ เราจึงทำการสำรวจเจาะลึกเกมและซอฟต์แวร์ FPS ที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ตามต้องการ

อะไรที่ทำให้ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งถือว่า "ดี"

ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งที่ดีจะท้าทายความสามารถของคุณในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการขว้างวัตถุเข้าหาคุณด้วยความเร็วเหนือแสง หรือการกระหน่ำยิงคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า สถานการณ์จำลองเหล่านี้ล้วนส่งผลดีให้กับคุณ เพราะช่วยให้คุณอาศัยการจำน้อยลงและใช้สัญชาตญาณมากขึ้น ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งที่สมบูรณ์แบบช่วยจะฝึกฝนจิตใจและกล้ามเนื้อของคุณให้ตอบสนองได้ทันควัน แทนที่จะต้องใช้เวลาคิดวิธีโต้กลับ

หากคุณกำลังฝึกเล่นเกมอย่าง Call of Duty (COD) หรือ Counter Strike: Global Offensive (CS:GO) การฝึกโดยใช้สถานการณ์จำลองที่อาจไม่ได้พบในเกมเหล่านั้น จะเป็นประโยชน์ต่อคุณมากCOD และ CS:GO ค่อนข้างเน้น "ความสมจริง" เมื่อเทียบกับเกมยิงอื่นๆ เช่น Overwatch  หรือ Destiny

แม้ว่าคุณอาจไม่ได้พบเจอกับสถานการณ์เดียวกันกับเกม Overwatch และ Destiny ใน Call of Duty แต่จะเตรียมความพร้อมด้านจิตใจเสมือนว่าคุณกำลังจะต้องเผชิญกับสถานการณ์เหล่านั้นไปด้วยก็ไม่เสียหาย

การฝึกจิตใจ

ที่เราพูดถึง “การฝึกจิตใจ” หรือการฝึกสมาธิไว้ก่อนหน้านี้ หมายความว่าอย่างไร มือโปรเกมเล็งเป้าส่วนใหญ่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เพราะผ่านการฝึกฝนทั้งในเกมและซอฟต์แวร์มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว บางคนถึงขั้นกล้าที่จะโชว์มุมมองของเมาส์และคีย์บอร์ด หรือคอนโทรลเลอร์ขณะสตรีมไปด้วย

คุณจะสังเกตเห็นว่าส่วนใหญ่คนเหล่านั้นจะพูดถึงการเคลื่อนไหวกับเพื่อนร่วมทีมหรือพูดกับตัวเอง ให้คิดว่าการกระทำเหล่านี้เป็นผลผลิตจากการฝึกฝนโดยทั่วไป การพูดถึงสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ออกมาดังๆ ถือเป็นการยืนยันกับตัวเองและคนอื่นๆ ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เพื่อให้เรามั่นใจในการกระทำเหล่านั้นเสมอ

ซอฟต์แวร์เกมฝึกความแม่นส่งผลต่อการทำงานทางความคิดนี้ได้อย่างไร เมื่อมีวัตถุพุ่งเข้าหาคุณ คุณมีเวลาน้อยนิดที่จะหยุด ไตร่ตรอง วางแผน และลงมือทำตามที่คิดไว้ การคิดและลงมือทำทันทีคือสิ่งที่เกมเมอร์มือโปรทำ ไม่ว่าจะเป็นเกมประเภทไหน ซึ่งเป็นผลมาจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องทั้งในเกมและในสถานการณ์จำลอง

เกมและซอฟต์แวร์ฝึกเล็ง FPS ชั้นนำ

เกมและซอฟต์แวร์ฝึกเล็ง FPS ชั้นนำเกมและซอฟต์แวร์ฝึกเล็ง FPS ชั้นนำ

1. Aim Lab

Aim Lab เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 โดย State Space Labs Inc. ซึ่ง Space Labs ไม่ใช่นักพัฒนาเกมตัวจริง แต่เป็นองค์กรวิเคราะห์ข้อมูลที่มีเจ้าหน้าที่ด้านประสาทวิทยาและโปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ที่คอยมองหาจุดเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีและการศึกษา Aim Lab ใช้โปรแกรมที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยให้คุณได้พัฒนาฝีมือยิ่งขึ้นทุกครั้งที่เข้าเกม

Aim Lab ใช้ได้กับเกม FPS และเกมยิงบุคคลที่สาม (Third-Person Shooter - TPS) ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นที่เน้นการใช้ปืนทุกคนจะสามารถใช้งานได้ เกมฝึกความแม่นนี้มีหลากหลายเพลย์ลิสต์ที่เน้นการใช้ทักษะเฉพาะภายในเกม FPS

ทักษะเหล่านั้นรวมไปถึงความแม่นยำ การยิงกราด และการระบุตำแหน่งเป้าหมาย เป็นต้น สิ่งที่ทำให้ Aim Lab เป็นที่นิยมในหมู่โปรรุ่นใหม่ก็คือ รายงานหลังการฝึกอย่างละเอียดที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ รายงานเหล่านี้แสดงกราฟและแผนภูมิที่แบ่งแยกย่อยข้อมูลการฝึกซ้อมของคุณในรายละเอียดที่เล็กที่สุด

องค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของเกม FPS และ TPS คือความหลากหลายของอาวุธ Aim Lab ให้คุณเข้าถึงอาวุธหลากหลายหมวดหมู่ที่มักจะพบเห็นได้ใน FPS หรือ TPS Aim Lab ยังมีคำแนะนำและการตั้งค่าต่างๆ มากมายสำหรับเกม FPS ที่อยู่ในรายการซอฟต์แวร์ฝึกเล็งของเรา Aim Lab สร้างหลากหลายสถานการณ์ให้คุณลองเผชิญหน้า และยังสามารถให้คำแนะนำที่แม่นยำเกี่ยวกับจุดแข็งของคุณและวิธีการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งเหล่านั้นอีกด้วย

2. Osu!

Osu! เปิดตัวในปี 2007 โดยนักพัฒนาชื่อว่า Dean Herbert เกมฝึกความแม่นนี้อาจเป็นซอฟต์แวร์ฝึกเล็งที่แปลกที่สุดในลิสต์ของเราเนื่องจากไม่ใช่ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งสำหรับ FPS โดยเฉพาะ เหมือนกัน Aim Lab หรือ KovaaK 2.0 แต่ Osu! เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องคลิก ลาก หรือวนลูกศรบนหน้าจอตามจังหวะของเพลงที่ปกติแล้วจะมาจากอนิเมะญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง เกมนี้มี 4 โหมด โดยโหมดที่นิยมใช้กันแพร่หลายมากที่สุดคือ Osu!standard ซึ่งมีโหมดที่มือโปรสายอีสปอร์ตส่วนใหญ่ใช้อุ่นเครื่องและลับฝีมือไปด้วย

แม้ว่า Osu! ไม่ใช่เกมที่เน้นการยิงแบบ FPS แต่รูปแบบการเล่นที่เรียบง่ายของเกมนั้นดึงดูดผู้ที่ต้องการเพิ่มความไวในการตอบสนองและการเล็งเป้าหมาย จังหวะและความเร็วของเพลงระดับสูงๆ บางเพลงใน Osu! นั้นแทบจะเล่นตามไม่ทันเลยทีเดียว แต่ถ้าผ่านการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความรอบคอบ Osu! ก็สามารถพัฒนาการตอบสนองของตัวเองให้ไวขึ้น ที่แม้แต่ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งบางตัวก็ไม่สามารถเทียบได้Osu! ไม่ได้เน้นรูปแบบการเล่นเกมแบบ FPS เช่น ประเภทของปืนหรือแรงดีดของปืน แต่มุ่งเน้นไปที่การใช้สายตาและสมาธิของคุณในการจับเป้าหมายทันทีที่ปรากฏบนหน้าจอ

Osu!เป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะเจาะสำหรับซอฟต์แวร์ฝึกเล็ง ถึงจะไม่ใช่ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งอย่างเป็นทางการก็ตาม และแม้ว่าจะไม่มีการวิเคราะห์ขั้นสูงเหมือนกับซอฟต์แวร์สำหรับฝึกเล็งโดยเฉพาะ แต่ก็ยังสามารถตอบโจทย์ในการเป็นสนามอุ่นเครื่องที่สนุกสนานให้กับคุณได้ ความสนุกเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้เล่นเกมเก่งขึ้น และ Osu! สามารถดึงความรู้สึกนั้นออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยรูปแบบการเล่นเกมที่ผสานความรวดเร็วเข้ากับการเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะดนตรี จะทำให้คุณถูกใจกับซอฟต์แวร์ที่ไม่เหมือนซอฟต์แวร์ฝึกเล็งอย่าง Osu! แน่นอน

3. KovaaK 2.0

KovaaK 2.0 เปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกับ Aim Lab และมีฟีเจอร์การจำลองสถานการณ์ที่หลากหลายให้กับผู้เล่น โดยมี 2 โหมดหลักคือ Sandbox และ Trainer

  • Sandbox: โหมดที่ใหญ่กว่า โดยมีสถานการณ์จำลองกว่า 5,500 สถานการณ์ ตลอดจนแผนที่ที่สร้างโดยชุมชนอีกมากมายให้คุณเลือก
  • Trainer: มุ่งเน้นไปที่ทักษะ "Flicking" หรือการหันกระบอกปืนไปหาเป้าหมายในเกม FPS โหมดนี้จะวิเคราะห์ประสิทธิภาพการเล่นเกมของคุณและช่วยพัฒนาทักษะโดยรวมของคุณด้วย

จุดแข็งของซอฟต์แวร์ฝึกเล็งนี้อยู่ที่ตัวเลือกการตั้งค่าขั้นสูง การตั้งค่าความไวที่คุณใช้สำหรับ Call of Duty มักจะแตกต่างจากที่คุณใช้ใน Fortnite หรือ Overwatch เมื่อคุณอยู่ใน KovaaK 2.0 Sandbox คุณสามารถปรับแต่งการจำลองโดยการตั้งค่าในเกม FPS ที่คุณชื่นชอบทั้งหลาย ตัวเลือกในการปรับแต่งที่โดดเด่นอื่นๆ ได้แก่:

  • อาวุธ
  • โมเดลเป้าหมาย (และการเคลื่อนไหวภายในสถานการณ์จำลอง)
  • เพลย์ลิสต์

หากถามว่าตัวเลือกทั้งหมดเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ก็ต้องบอกว่า KovaaK 2.0 มุ่งเน้นที่การฝึกฝนสำหรับการเล่นเกม FPS โดยเฉพาะ ซึ่งต่างจากการฝึกเล่นเกมทั่วไป นั่นไม่ได้หมายความว่าทักษะที่ใช้ในเกมหนึ่งจะใช้กับอีกเกมไม่ได้ แต่ควรให้ความสนใจไปทีละเกม มากกว่าแบ่งเวลาให้หลายๆ เกมพร้อมกัน

ข้อดีอีกประการของ KovaaK 2.0 คือการพึ่งพาชุมชนเป็นหลัก คุณสามารถมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในผู้สร้างแผนที่ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้กับเกมได้ นักพัฒนาของ KovaaK ยังสนับสนุนการแข่งขันในแต่ละเดือนเพื่อดูว่าใครเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด ที่น่าตลกก็คือ การตั้งเป้าหมายสำหรับชุมชนทำให้เกมเมอร์ทั้งหลายยิ่งฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเพื่อให้พิชิตเป้าหมายนั้นให้ได้!

4. 3D Aim Trainer

3D Aim Trainer เป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถดาวน์โหลดลงในเบราว์เซอร์ เดสก์ท็อป และอุปกรณ์เคลื่อนที่ iOS และ Android ได้ฟรี ความหลากหลายนี้ช่วยให้ผู้ที่เล่นเกมบนมือถือและแพลตฟอร์มขนาดเล็กสามารถลับสกิลของตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้พีซี นอกจากนั้น ซอฟต์แวร์นี้ยังมีคู่มือการฝึกและกิจวัตรสำหรับเกม FPS ที่ใหญ่ที่สุดบางเกม เช่น Rainbow Six, Call of Duty: Modern Warfare, Counter Strike: Global Offensive และแม้แต่ Hyper Scape โดย 3D Aim Trainer จะมุ่งเน้นไปที่ทักษะ FPS 5 โหมดหลักๆ ภายใน Academy devision ได้แก่

  • Flicking: เลื่อนเมาส์อย่างรวดเร็วเพื่อหันปืนไปยังตำแหน่งของเป้าหมายที่เพิ่งปรากฏขึ้น
  • Clicking: คาดคะเนการเคลื่อนไหวของเป้าหมายขณะที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านหน้าจอ
  • Tracking: ล็อคสายตาและเล็งไปที่เป้าหมายขณะเคลื่อนที่
  • Target switching: เปลี่ยนจากเป้าหมายหนึ่งไปยังอีกเป้าหมายหนึ่งโดยเร็วที่สุด
  • Strafe aiming: โจมตีเป้าหมายอย่างต่อเนื่องในขณะที่คุณและเป้าหมายกำลังเคลื่อนที่

สิ่งที่ทำให้ 3D Aim Trainer มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็คือ มีการจำลองการฝึกสำหรับเกม FPS ชั้นนำมากมายโดยเฉพาะ มากกว่าซอฟต์แวร์ฝึกเล็งอื่นๆ คุณจึงไม่จำเป็นต้องค้นหาเพลย์ลิสต์นับร้อยหรือหลายพันเพื่อค้นหาสถานการณ์จำลองที่เหมาะสมสำหรับคุณ ยิ่งกว่านั้นคือ คุณไม่จำเป็นต้องสร้างสถานการณ์เองเพียงเพื่อเลียนแบบสถานการณ์ในเกม FPS เหล่านั้นอีกด้วย เพียงเลือกทักษะที่คุณต้องการฝึก เพิ่มเกม FPS แล้ว 3D Aim Trainer ก็จะเริ่มบทเรียนให้คุณโดยอัตโนมัติ

3D Aim Trainer ยังมีทักษะอื่นๆ อีก 2 โหมด นอกเหนือจากทักษะหลักทั้ง 5 ให้ฝึกร่วมด้วย ฟังก์ชันผู้เล่นหลายคนช่วยให้คุณแข่งขันกับโปรคนอื่นๆ ได้ ทำให้คุณมีโอกาสทดสอบทักษะที่กำลังฝึกฝน ก่อนที่จะกลับไปเล่นเกมแข่งขัน

ไม่ว่าคุณจะเลือกฝึกทักษะใด ซอฟต์แวร์นี้ก็เหมาะที่จะฝึกเล่นอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอสำหรับหลากหลายเกม FPS  การจำลองและคำแนะนำสำหรับเกม FPS เหล่านั้นโดยเฉพาะจะช่วยลับทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับการเล่น FPS ระดับสูง

5. Counter Strike: Global Offensive & Valorant

ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งตัวสุดท้ายในลิสต์ของเราไม่ใช่ซอฟต์แวร์สำหรับฝึกเล็งปืนโดยเฉพาะ แต่เป็นเกม FPS ที่ได้รับความนิยมล้นหลามCounter Strike เป็นซีรีส์เกม FPS ที่เปิดตัวครั้งแรกโดย Valve Corporation ในปี 1999 โดยมีทัวร์นาเมนต์ระดับมืออาชีพอีกมากมายตามมาหลังจากนั้นไม่นาน

ภาคล่าสุดมีชื่อว่า CS:GO เป็นภาคที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ขึ้นชื่อเรื่องความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างรูปแบบการเล่นเกม โหมดการต่อสู้ และอินเทอร์เฟซผู้ใช้ ในปี 2020 Riot Games ได้เปิดตัวเวอร์ชันผู้เล่นหลายคนแบบ 5 ต่อ 5 มาพร้อมกับ Valorant ซึ่งเป็นเกมที่คล้ายกับ CS:GO แต่ก็มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในบางจุด เมื่อนำทั้ง 2 เกมมาเปรียบเทียบกัน เราจะเห็นว่าทั้งคู่มีส่วนคล้ายคลึงกันในด้านประเภททักษะที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อให้เล่นได้ดี

เกมทั้งสองต้องอาศัยการตอบสนองที่ยอดเยี่ยม และการฝึกฝนทักษะต่างๆ เช่นเดียวกับที่ 3D Aim Trainer มุ่งเน้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน CS:GO ที่มีฉากและรูปแบบการเล่นที่อิงจากโลกแห่งความเป็นจริง จะต้องอาศัยความสามารถของผู้เล่นในการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานเป็นทีมกับทักษะส่วนตัว เวลาที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ (TTK) ใน CS:GO อาจเร็วหรือช้ากว่าหนึ่งวินาที เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เมาส์และแป้นพิมพ์มีการเคลื่อนไหวย่อมมีความหมายเสมอ ในกรณีของ Valorant การใช้ปืนจะคล้ายกับ CS:GO มาก แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ความสามารถของผู้เล่นนั้นสามารถพลิกเกมจากหน้ามือเป็นหลังมือในแบบที่ CS:GO ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้

แล้วทำไม 2 เกมนี้ถึงอยู่ในลิสต์ของเรา หากคุณเล่นซอฟต์แวร์ฝึกเล็งตัวอื่นๆ ในลิสต์นี้ คุณจะสังเกตเห็นว่ากลไกส่วนใหญ่ของซอฟต์แวร์เหล่านั้นใช้เทคนิคตามแบบฉบับของ CS:GO และ Valorant ให้คิดว่าทั้ง 2 เกมนี้เป็นสนามทดสอบทักษะสำหรับใช้ในเกม FPS เกือบทั้งหมดที่สามารถฝึกฝนได้

เกม CS:GO และ Valorant แต่ละตาอาจสิ้นสุดภายในเวลาไม่ถึงนาที และคุณต้องคิดให้ไวและเด็ดขาด หากคุณและทีมต้องการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้ หากคุณเต็มใจที่จะกระโดดลงไปในสนามทดสอบสุดทรหดของการฝึกทักษะสำหรับเกม FPS แล้วล่ะก็ ทั้ง 2 เกมนี้นับว่าเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคุณ

แนวคิดที่สำคัญใน FPS

และตอนนี้คุณก็ได้ตัดสินใจเลือกหนึ่งในซอฟต์แวร์ฝึกเล็งเพื่อลับสกิลของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณพร้อมที่จะเริ่มหรือยัง แต่อย่าเพิ่งใจร้อน เพราะมีข้อกำหนดและแนวคิดบางอย่างเกี่ยวกับเกม FPS (และเกมยิงบุคคลที่สาม) ที่คุณควรรู้ ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้เวลาได้คุ้มค่ายิ่งขึ้นหากคุ้นเคยกับแนวคิดเหล่านี้ จะดีกว่าถ้าคุณใช้พลังไปกับการพัฒนาทักษะ แทนที่จะก้มหน้าก้มตาใช้ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งเหล่านี้โดยไม่มีจุดหมาย

คำสำคัญ

มีคำสำคัญในเกมประเภท FPS ที่จะช่วยให้คุณปรับตัวให้เข้ากับซอฟต์แวร์ฝึกเล็งทั้งหลาย รวมถึงการเล่นเพื่อแข่งขัน ดังนี้

  • Crosshair Position: ตำแหน่งเป้าเล็งของคุณในขณะที่ไม่ได้ยิง คุณจึงต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุดหากต้องการล็อคเป้าหมายเพื่อยิง
  • Recoil Control: ความเร็วในการปรับตำแหน่งอาวุธอีกครั้งหลังจากที่ยิงไปแล้ว หรือในขณะที่กดปุ่ม "ยิง" ค้างไว้
  • Precision: ความสม่ำเสมอในการเล็งเป้าให้เข้าใกล้จุดอ่อนของเป้าหมาย (โดยปกติคือบริเวณศีรษะ)
  • Strafing: การเล็งไปที่คู่ต่อสู้ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังเคลื่อนที่
  • Flicking: การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและยิงเป้าหมายทันทีที่ปรากฏบนหน้าจอ โดยทักษะนี้จะต้องอาศัยความไวเป็นอย่างยิ่ง
  • Target Acquisition: ความสามารถโดยรวมของคุณในการจดจำเป้าหมาย ล็อคเป้าหมาย แล้วยิงในระยะเวลาอันสั้น

คำศัพท์บางคำก็เป็นทักษะที่ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ บางครั้งคุณจะได้ยินมือโปรพูดถึงทักษะส่วนตัวเหล่านี้ รวมไปถึงความสำคัญที่มีต่อ FPS แต่ละเกมโดยเฉพาะ การฝึกฝนทักษะแต่ละด้านอย่างสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการเล่นเกมและเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคุณอีกด้วย

การตั้งค่ากราฟิก

การเล่นเกมที่มีกราฟิกคุณภาพต่ำทำให้เสียอารมณ์และหมดสนุกไปได้เลย หากต้องการเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง คุณก็ต้องแน่ใจว่ากราฟิกอยู่ในสภาพดี เหมือนที่เราได้เห็นในเกมอย่าง CS:GO และ Valorant รายละเอียดเพียงเล็กน้อยอาจสร้างความแตกต่างระหว่างการกระโดดจู่โจมคู่ต่อสู้ของคุณกับการสร้างความประหลาดใจให้กับตัวเองได้เลย

ทั้งหมดนี้หมายถึง การดูแลส่วนประกอบภายในพีซีเป็นอย่างดี และตรวจสอบให้แน่ใจว่าจอภาพ กราฟิกการ์ด และโปรเซสเซอร์ทำงานสอดคล้องกัน ต้องมั่นใจว่าพีซีหรืออุปกรณ์ที่คุณเลือกนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดหรือดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้สามารถจำลองสถานการณ์การแข่งขันในเกม FPS ได้สมบูรณ์แบบที่สุด

หากคุณคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องอัปเกรดคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมแล้ว อ่านบทความ HP Tech Takes เกี่ยวกับกราฟิกการ์ดที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมได้เลย

อัตราเฟรม

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการเล่น FPS ระดับสูงคือการมีอัตราเฟรมที่สูง จากที่เราพูดถึงในตอนต้นว่าอัตราเฟรมคือจำนวนเฟรมต่อวินาทีที่ปรากฏบนจอภาพ ยิ่งอัตราเฟรมสูงเท่าไร เกมของคุณก็จะยิ่งราบรื่นขึ้นเท่านั้น

การเคลื่อนไหวของตัวละครจะขาดๆ หายๆ น้อยลง และมักจะเป็นผลจากการตั้งค่ากราฟิกให้อยู่ในระดับสูงสุดโดยไม่ทำให้พีซีร้อนเกินไปพีซีสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะจะรับประกันว่าอัตราเฟรมและกราฟิกของคุณนั้นไม่เป็นสองรองใครอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราเฟรมในบทความ HP Tech Takes ที่นี่

การตั้งค่าจอภาพของคุณ

จอภาพยังมีส่วนช่วยให้คุณเล็งได้แม่นยำขึ้นในขณะที่ทำเควสต์ คุณอาจเคยเห็นโฆษณาจอภาพที่เน้นเรื่องอัตราการรีเฟรชเป็นสำคัญ ซึ่งมักจะวัดเป็นหน่วย Hz (เฮิรตซ์) นี่หมายถึงจำนวนครั้งที่จอภาพจะรีเฟรชภาพที่ปรากฏบนหน้าจอ อัตราการรีเฟรชและอัตราเฟรมนั้นแตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็มีความเชื่อมโยงกับประสบการณ์ในการเล่นเกม และพีซีอาจสร้างจำนวนเฟรมมากกว่าที่จอภาพจะสามารถรีเฟรชได้โดยขึ้นอยู่กับอัตราการรีเฟรชเรียนรู้วิธีเปลี่ยนอัตราการรีเฟรชในบทความ HP Tech Takes ของเรา

การศึกษาประสิทธิภาพของจอภาพ การ์ดกราฟิก และโปรเซสเซอร์ให้รอบคอบล้วนเป็นสิ่งสำคัญ เกมจะไม่ต่อเนื่องและขาดๆ หายๆ หากคุณเลือกส่วนประกอบที่ทำงานร่วมกันได้ไม่ดีจอภาพที่มีอัตราการรีเฟรชสูงก็อาจจะล่อตาล่อใจให้ซื้อ แต่คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าจอภาพนี้เหมาะสำหรับพีซีของคุณจริงๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

เกมเมอร์เกือบทั้งโลกปลาบปลื้มกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เสถียร เครือข่ายที่ดีจะช่วยลดโอกาสการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติในเกม เช่น ผู้เล่นเทเลพอร์ต วิ่งอยู่กับที่ หรือบินผ่านหน้าจออย่างรวดเร็วหลังจากดีเลย์ไป 5 วินาที

แม้ฝีมือการเล็งเป้าของคุณในเกม FPS อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ถ้าคู่ต่อสู้เริ่มเทเลพอร์ตรอบๆ ตัวคุณ เพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดี ก็คงถึงเวลาที่จะต้องลงทุนเปลี่ยนผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตให้ดีกว่าเดิมได้แล้ว สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีความสำคัญต่อกราฟิกไม่มากนัก แต่การตรวจสอบให้แน่ใจว่าพีซีทำงานสอดคล้องกับเกมมีความสำคัญมากกว่า

ความแตกต่างระหว่างทักษะกับการแฮ็ค

หากต้องแพ้คู่ต่อสู้หรือทีมเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็คงจะต้องหงุดหงิดอยู่บ้าง บางครั้งก็ถึงกับตะโกนออกมาว่า "แฮ็กเกอร์" หรือ "ไอ้ขี้โกง" รัวๆ คนโกงมักใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในซอฟต์แวร์เกมตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เรามองไม่เห็นนั้นกำลังโกงอยู่

สกิลของคุณ vs. แฮกเกอร์

วิธีการโกงในแบบต่างๆ เริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็วพอๆ กับความหลากหลายของเกม ตัวอย่างการโกงในเกม FPS ที่เห็นได้ชัด เช่น

  • DDoS Attacks: การก่อกวนสัญญาณอินเทอร์เน็ตของฝ่ายตรงข้าม (เหมือนกับการก่ออาชญากรรมกับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ) เพื่อให้ฝ่ายนั้นเด้งออกจากเกม
  • Script: ชุดคำสั่งที่ตั้งไว้ล่วงหน้าซึ่งไม่จำเป็นต้องอาศัยการควบคุมโดยผู้เล่น
  • Lag Switching: การขัดขวางเส้นทางการถ่ายโอนข้อมูลจากพีซีของผู้เล่นไปยังเกม ทำให้ผู้ที่โกงได้เปรียบ
  • Aim Botting: การล็อคและยิงใส่ฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ต้องใช้ความพยายามหรือไม่ต้องขยับแป้นพิมพ์หรือเมาส์

ข่าวดีก็คือ อย่างน้อยๆ การโกงในเกม FPS มักจะเห็นได้ชัดเจนจนไม่สามารถมองข้ามได้เลย เราทุกคนอาจจะหวังว่าปุ่มรายงานปัญหาจะแก้ไขสิ่งนี้ได้ แต่ผู้พัฒนาเกมมักจะได้รับรายงานปลอมจนล้นมือ ซึ่งแทบจะไม่เหลือโอกาสให้คนที่โกงได้รับบทลงโทษ

คุณสามารถซื้อแอปพลิเคชันบันทึกเกม หรือซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้คุณสามารถเล่นซ้ำได้ เพื่อดูว่าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามกำลังทำอะไรอยู่ หวังว่าวิธีนี้จะช่วยพิสูจน์ข้อโต้แย้งของคุณได้หนักแน่นขึ้น จนเพิ่มโอกาสที่คนโกงจะโดนดัดนิสัยเสียที

หากค้นหาเร็วๆ ดูบน YouTube จะเห็นว่ามีเกมเมอร์จำนวนมากที่ต้องเผชิญหน้ากับคนโกงและตามมาด้วยความฮามากมาย ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่เชื่อกันอย่างแพร่หลายว่า การเอาชนะคนขี้โกงในเกมด้วยทักษะของตัวเองนั้นสามารถทำได้

ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งสำหรับเกม FPS เป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่คุณสามารถใช้ต่อสู้กับคนขี้โกงได้ เพราะสถานการณ์จำลองในนั้นจะช่วยให้ผู้ใช้ได้ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปกับทักษะส่วนตัว ทำให้โปร FPS เป็นโปรได้ทุกวันนี้ ไม่มีอะไรที่จะยั่วโมโหพวกคนโกงในเกมได้ดีไปกว่าการแพ้ฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ได้โกงอีกแล้ว (และอาจทำให้คนพวกนั้นเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองได้เต็มตาอีกด้วย)

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด: สรุปแล้ว ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งตัวไหนดีที่สุดกันแน่

ซอฟต์แวร์ตัวโปรดของเรา คือ KovaaK 2.0 ด้วยตัวเลือกสถานการณ์จำลองที่มีมาเพิ่มเรื่อยๆ และสามารถปรับแต่งการตั้งค่าได้หลากหลาย ทำให้ซอฟต์แวร์ตัวนี้ได้คะแนนจากเรามากกว่าตัวอื่นๆ ที่จำกัดเฉพาะเกม FPS บางเกมเท่านั้น

การตั้งค่าตามความต้องการของผู้ใช้ KovaaK 2.0 หมายความว่าผู้ใช้สามารถเลือกเน้นจุดแข็งของตัวเองได้มากกว่าซอฟต์แวร์ฝึกเล็งอื่นๆ แม้ KovaaK 2.0 ไม่ได้เน้นการเสริมสร้างทักษะของคุณได้ดีไปกว่าซอฟต์แวร์[ฝึกความแม่นยำ]ตัวอื่นๆ แต่ก็มีหลากหลายประสบการณ์การฝึกให้คุณเลือกมากกว่าตัวอื่นๆ ช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเกม FPS

เราขอแนะนำให้คุณลองใช้ซอฟต์แวร์ฝึกเล็งทั้งหมดนี้ เพราะหนึ่งในนั้นอาจให้บทเรียนกับคุณในแบบที่ตัวอื่นทำไม่ได้ บางตัวอาจมีฟีเจอร์ที่คุณไม่เคยสนใจมาก่อน เช่น รายงานความคืบหน้าโดยละเอียด ที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณ

ไม่ว่าสุดท้ายแล้วคุณจะเลือกใช้ซอฟต์แวร์ใดในระยะยาว ความสม่ำเสมอและความสนุกสนานก็จะเป็นกุญแจสู่ความก้าวหน้า หากคุณสามารถกลับมาเล่นเกมทุกๆ วันได้ และสนุกไปกับการฝึกและการเล่น ก็ถือว่าคุณมาถูกทางแล้วสำหรับการพัฒนาทักษะในเซ็ตแรกเพื่อที่จะได้ลงเล่นเกม FPS ระดับมืออาชีพ